- โครงการ Safe Kids at Home: Fire and Burn Prevention Program จะเข้าถึงเด็กๆ กว่า 6,000 คนในกรุงกัวลาลัมเปอร์
จากการศึกษาภาระโรคในระดับโลก (Global Burden of Disease) ขององค์การอนามัยโลกพบว่า ในแต่ละปีมีเด็กเสียชีวิตบาดจากแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก เป็นจำนวนถึงราว 265,000 คน โดยส่วนใหญ่เกิดในประเทศที่มีรายได้ต่ำ-ปานกลาง การเสียชีวิตมากกว่าครึ่งหนึ่งเกิดขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรวมถึงมาเลเซีย ที่ซึ่งมีรายงานว่ามีเด็กเสียชีวิตจากไฟไหม้ น้ำร้อนลวกหนึ่งคนในทุกๆ สองสัปดาห์
http://photos.prnasia.com/prnvar/20170222/0861701432
คำบรรยายภาพ: YB Datuk Halimah Mohamed Sadique รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสวัสดิภาพชุมชนเมือง การเคหะ และการปกครองส่วนท้องถิ่น, นายไบรอันด์ เกรียร์ ประธานบริษัทฮันนี่เวลล์ อาเซียน และคณะผู้แทนจากมหาวิทยาลัยปุตรามาเลเซีย, ฮันนี่เวลล์ และกรมดับเพลิงและกู้ภัย ถ่ายภาพร่วมกับเด็กนักเรียนจากสถานศึกษาต่างๆ ที่เข้าร่วมโครงการ
ด้วยเห็นถึงความจำเป็นในการเพิ่มความตระหนักเกี่ยวกับปัญหาสาธารณสุขระดับโลกนี้ องค์กร Safe Kids Malaysia Universiti Putra Malaysia (UPM) องค์กร Safe Kids Worldwide และฮันนี่เวลล์ (NYSE:HON) จึงได้ร่วมกันเปิดตัวโครงการให้ความรู้ Safe Kids at Home ขึ้น เพื่อช่วยป้องกันอันตรายที่เกิดจากไฟ เพลิงไหม้ และน้ำร้อนลวก ในกลุ่มเด็กอายุระหว่าง 7-12 ปี โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากฮันนี่เวลล์ โฮมทาวน์ โซลูชั่น ซึ่งบริษัทได้ริเริ่มขึ้นในฐานะขององค์กรพลเมืองที่ดี โดยมุ่งเน้นในห้าประเด็นสำคัญ ได้แก่ ความมั่นคงและความปลอดภัยของครอบครัว วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ บ้านเรือนและที่อยู่อาศัย การอยู่อาศัยและการอนุรักษ์ และการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
โครงการดังกล่าวได้รับการพัฒนาต่อยอดจากผลการสำรวจเมื่อปี 2559 ซึ่งจัดทำโดย Safe Kids Malaysia และ Universiti Putra Malaysia (UPM) ซึ่งเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยวิจัยชั้นนำของประเทศ รายงานผลการวิจัยฉบับใหม่ในหัวข้อ "บ้านของคุณปลอดภัยแค่ไหน? มาช่วยกันปกป้องเด็กๆ จากไฟ เพลิงไหม้ และน้ำร้อนลวกในกัวลาลัมเปอร์กันเถอะ" (How Safe is Your Home? Protecting Children from Fire, Burns and Scalds in Kuala Lumpur) ได้รับการเผยแพร่อย่างเป็นทางการวันนี้ โดย YB. Datuk Halimah Mohamed Sadique รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสวัสดิภาพชุมชนเมือง การเคหะ และการปกครองส่วนท้องถิ่น ในพิธีเปิดตัวโครงการ ณ มหาวิทยาลัย UPM วิทยาเขตเซอร์ดัง
โดยภายในงาน YB. Datuk Halimah Mohamed Sadique รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสวัสดิภาพชุมชนเมือง การเคหะ และการปกครองส่วนท้องถิ่น, Professor Datin Paduka Dr. Aini Ideris รองอธิการบดีมหาวิทยาลัย UPM, Associate Professor Dr. Kulanthayan KC Mani ผู้อำนวยการบริหาร Safe Kids Malaysia UPM, ไบรอันด์ เกรียร์ ประธานของฮันนี่เวลล์ อาเซียน, แคร์รี เคนเนดี ผู้อำนวยการฝ่าย Global Corporate Citizenship ของฮันนี่เวลล์ โฮมทาวน์ โซลูชั่นส์ และ ทาเรกา วีลเลอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายโครงการประจำ Safe Kids Worldwide ได้ให้เกียรติเข้าร่วมในพิธีเปิดโครงการดังกล่าว
YB. Datuk Halimah Mohamed Sadique รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสวัสดิภาพชุมชนเมือง การเคหะ และการปกครองส่วนท้องถิ่น กล่าวว่า"ทางกระทรวงขอขอบคุณพันธมิตรภาคอุตสาหกรรมอย่างฮันนี่เวลล์ ที่ได้ให้การสนับสนุนและมอบเงินอุดหนุนโครงการริเริ่มนี้ ซึ่งนับเป็นความร่วมมืออย่างเต็มรูปแบบระหว่างแวดวงวิชาการ อุตสาหกรรม องค์กรระดับนานาชาติ และรัฐบาล"
Professor Dr. Aini จาก UPM กล่าวว่า "ในฐานะที่เป็นมหาวิทยาลัยวิจัยอันดับต้นๆ ของมาเลเซีย เรามีความภาคภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับสององค์กรชั้นแนวหน้าของโลกอย่าง Safe Kids Worldwide และฮันนี่เวลล์ นอกจากนี้ เรายังมีความยินดีที่ได้ทำงานร่วมกับกรมดับเพลิงและกู้ภัยแห่งมาเลเซีย และจะเดินหน้าโครงการริเริ่มต่างๆ ที่ช่วยมอบผลลัพธ์อันดีในระยะยาวให้กับสังคมโดยรวมต่อไป"
"งานวิจัยดังกล่าวบ่งชี้ถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการให้ความรู้เกี่ยวกับไฟไหม้และน้ำร้อนลวกแก่เด็กๆ และเรามุ่งหวังที่จะได้ริเริ่มโครงการ Safe Kids at Home ตามโรงเรียนต่างๆ จำนวน 9 แห่งในเขตเซนทูล กรุงกัวลาลัมเปอร์" Dr. Kulanthayan จาก Safe Kids Malaysia UPM กล่าว
YB. Datuk Halimah Mohamed Sadique รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสวัสดิภาพชุมชนเมือง การเคหะ และการปกครองส่วนท้องถิ่น กล่าวเพิ่มเติมอีกด้วยว่า "ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การสนับสนุนโครงการนี้ของฮันนี่เวลล์ ซึ่งจะเริ่มจากเซนทูลเป็นที่แรกนั้น จะขยายขอบเขตและเข้าถึงเด็กๆ ในพื้นที่ต่างๆ ได้มากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงวันหนึ่งที่เราสามารถเข้าถึงเด็กทั้งประเทศ"
"มาเลเซียเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่เปิดตัวโครงการนี้ และเรารู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เป็นพันธมิตรกับ Safe Kids Malaysia UPM และ Safe Kids Worldwide" นายเกรียร์ จากฮันนี่เวลล์ อาเซียน กล่าว "ฮันนี่เวลล์มุ่งมั่นต่อการยกระดับคุณภาพชีวิต ด้วยการสร้างความแตกต่างที่สามารถวัดผลได้อย่างเป็นรูปธรรมในชุมชนที่เราอยู่และหาเลี้ยงชีพ โดยมุ่งเน้นไปที่การศึกษา การดูแลสุขภาพ การบังคับใช้กฎหมาย และความปลอดภัยจากอัคคีภัย เป้าหมายของเราคือการให้ความรู้แก่เด็กทุกคนเกี่ยวกับความสำคัญของความปลอดภัยในบ้านและการป้องกันไฟ"
ผลการวิจัยที่สำคัญ
- ผู้ปกครองมากกว่าครึ่งหนึ่ง (54%) เผยว่า ลูกของตนได้รับบาดเจ็บจากไฟไหม้หรือน้ำร้อนลวกอย่างใดอย่างหนึ่งในช่วงสองปีที่ผ่านมา
- ผู้ปกครอง 51% กังวลว่าลูกของตนจะบาดเจ็บจากไฟไหม้หรือน้ำร้อนลวกมากกว่าการบาดเจ็บอื่นๆ
- มีผู้ปกครองเพียง 1 ใน 3 ที่สอนลูกของตนเกี่ยวกับการป้องกันอัคคีภัยอย่างสม่ำเสมอ
- ผู้ปกครองกว่า 80% ระบุว่า พวกเขาใช้ยาสีฟันทาแผลเพื่อให้อาการทุเลา ซึ่งแท้จริงแล้วกลับยิ่งทำให้อาการแย่ลง
สำหรับการดำเนินงานในประเทศมาเลเซียนั้นเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2528 จนถึงวันนี้ ฮันนี่เวลล์ มีพนักงานกว่า 1,500 คนใน 6 เมืองทั่วประเทศ ได้แก่ กัวลาลัมเปอร์ เปตาลิงจายา ชาห์อาลัม ปีนัง เคมามัน และยะโฮร์บารู เทคโนโลยีและโซลูชั่นต่างๆ ของฮันนี่เวลล์ อาทิ ระบบอิเลกทรอนิกส์แบบบูรณาการสำหรับเครื่องบิน ระบบควบคุมกระบวนการ และเทคโนโลยีสำหรับโรงกลั่นน้ำมัน รวมถึงระบบอาคารอัตโนมัติ ล้วนมีส่วนสนับสนุนมาเลเซียในการพัฒนาสังคมให้มีความปลอดภัย มั่นคง และใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
รูปภาพ - http://photos.prnasia.com/prnh/20170222/0861701432