โรคส่วนใหญ่ที่คนไทยมักจะเป็นกัน และมักจะพบในผู้ใหญ่เสียมากกว่า คงจะต้องถามหาโรคกระเพาะกันอย่างแน่นอน เพราะด้วยการใช้ชีวิตของคนเราในปัจจุบันนี้ที่ไม่ค่อยใส่ใจในอาหารการกิน รวมถึงการดำเนินชีวิตที่ไม่ค่อยถูกสุขลักษณะและไม่ดูแลรักษาร่างกายกันเลย จึงเกิดโรคภัยที่เกิดความเจ็บป่วยต่อร่างกายได้ง่ายมากๆ โดยโรคกระเพาะทำให้ผู้ที่เป็นเกิดอาการปวดท้อง ซึ่งจะทรมานสักพักเดี๋ยวก็เป็นๆหายๆ มักจะปวดท้องบริเวณลิ้นปี่ รวมถึงอาการแสบท้อง
สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคกระเพาะ
เนื่องจากการที่มีกรดในกระเพาะอาการ มากเกินไปหรือเมือกที่บุผนังทางเดินซึ่งทำหน้าที่รักษาทางเดินอาหาร มีปริมาณที่ไม่เพียงพอจึงมักจะเกิดแผลในกระเพาะอาหารให้เราได้ปวดท้องกันอยู่บ่อยๆ
ดังนั้นแล้วเมื่อเกิดความไม่สมดุลในกระเพาะอาหาร วิธีการรักษาที่ดีที่สุดนั่นก็คือ การไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะมีการรักษาที่หลากหลายวิธีตามความเหมาะสมของอาการ และส่วนใหญ่ที่ทุกคนหนีไม่พ้นเลยก็คือการใช้ยา โดยโรคกระเพาะอาหารนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้ “ยาเคลือบกระเพาะอาหาร”

การทำงานของยา
ยานี้เป็นสารละลายที่มีฤทธิ์เป็นด่าง ซึ่งคุณสมบัติที่โดดเด่นนี้นี่เอง เมื่อเรารับประทานอาหารเสร็จแล้วตามด้วยยาเคลือบกระเพาะอาหารนี้ มันจะเข้าไปทำปฏิกิริยากับกรดเกลือในกระเพาะอาหารให้เกิดความเจือจางลง และยาแบบนี้มักมีขายในท้องตลาดส่วนใหญ่หรือร้ายขายยา เป็นต้น ทั้งนี้ควรดูความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ร่วมด้วย เนื่องจากยาที่ดีนั้นจะมีส่วนผสมของอลูมิเนียมไฮดรอกไซด์ และแม็กนิเซียมไฮดรอกไซด์ในสัดส่วนที่เท่าๆกัน ตัวยาที่ได้กล่าวมานี้จะไปเคลือบแผลในกระเพาะอาหาร เคลือบแผลในลำไส้เล็กส่วนต้น รวมถึงแผลที่เกิดขึ้นบริเวณส่วนปลายของหลอดอาหาร และลดการปวดท้องอีกด้วย
ทั้งนี้ยาเคลือบกระเพาะอาหารที่ดีและมีประสิทธิภาพต่อผู้ใช้ ควรจะออกฤทธิ์อยู่ได้นาน ออกฤทธิ์ที่เห็นผลเร็ว ดูดซึมเข้าร่างกายได้น้อย เนื่องจากจะได้ไม่มีสารเคมีตกค้างในร่างกาย รวมถึงทางที่ดีควรจะมีรสชาติดีดื่มง่ายและลื่นคอ
คำแนะนำในการใช้
โดยปกติทั่วไปแล้วการรับประทานยาชนิดนี้ ควรรับประทาน 1 ชั่วโมงหลังจากทานอาหารเสร็จ เพราะว่ายาจะได้ออกฤทธิ์นานมากขึ้นถึง 2-3 ชั่วโมงเลยทีเดียว แต่ถ้าหากว่าดันไปรับประทานยาก่อนอาหาร ฤทธิ์ของมันจะคงอยู่ได้เพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น
ทั้งนี้ถ้าหากว่าผู้ป่วยมีอาการแน่นท้องมาก ก็ควรที่จะรับประทานยาทุกๆ 2 ชั่วโมง เพื่อให้อาการเจ็บป่วยหรืออาการปวดท้องที่มีอยู่บรรเทาและทุเลาได้เร็วมากยิ่งขึ้น
ที่มา... healthydeejung.com