วาเลียนท์ ฟาร์มาซูติคอลส์ อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ (Valeant Pharmaceuticals International, Inc.) (NYSE: VRX) (TSX: VRX) และบอช แอนด์ ลอมบ์ โฮลดิ้งส์ อินคอร์ปอเรเต็ด (Bausch + Lomb Holdings Incorporated) บริษัทด้านสุขภาพดวงตาระดับโลก เผยอยู่ในระหว่างการดำเนินการเพื่อจัดทำข้อตกลงขั้นสุดท้ายว่าด้วยการซื้อกิจการของบอช แอนด์ ลอมบ์ ในรูปของเงินสด มูลค่า 8.7 พันล้านดอลลาร์
(โลโก้: http://photos.prnewswire.com/prnh/20121221/MM34011LOGO )
(โลโก้: http://photos.prnewswire.com/prnh/20130527/NY20994LOGO )
บอช แอนด์ ลอมบ์ เป็นบริษัทด้านสุขภาพดวงตาที่ดำเนินกิจการใน 3 สาขาได้แก่ เภสัชกรรม (ประกอบด้วยแบรนด์ตามใบสั่งแพทย์, การซื้อขายทั่วไป และการซื้อขายโดยตรง (OTC)), การดูแลสุขภาพสายตา (คอนแทคเลนส์ และโซลูชั่นต่างๆ), และการผ่าตัด (เลนส์เทียม และอุปกรณ์ผ่าตัด) บอช แอนด์ ลอมบ์ มีประวัติการดำเนินกิจการในด้านผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพดวงตาอย่างกว้างขวาง อาทิ แบรนด์ตามใบสั่งยาของแพทย์ และแบรนด์การซื้อ-ขายแบบตรงที่มีชื่อเสียงอย่าง Besivance, Lotemax, Ocuvite และ PreserVision, แบรนด์ดูแลสุขภาพสายตา ได้แก่ Biotrue ONEday, PureVision, Renu และ Boston รวมถึงแบรนด์ด้านการผ่าตัด ได้แก่ enVista, Storz, Stellaris และ VICTUS
ภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลงดังกล่าว ซึ่งผ่านการอนุมัติอย่างเป็นเอกฉันท์โดยคณะกรรมการบริหารของทั้ง 2 บริษัทเรียบร้อยแล้ว มีนัยสำคัญดังนี้ วาเลียนท์จะจ่ายเงินสดรวบยอดมูลค่า 8.7 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะจัดสรรไปยังกลุ่มนักลงทุนที่อยู่ภายใต้การนำของ วอร์เบิร์ก พินคัส (Warburg Pincus) เป็นจำนวนเงินประมาณ 4.5 พันล้านดอลลาร์ และแบ่งไปใช้ชำระหนี้ค้างชำระของบอช แอนด์ ลอมบ์ มูลค่า 4.2 พันล้านดอลลาร์ วาเลียนท์คาดว่า จะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายประจำปีได้อย่างน้อยที่สุด 8 ร้อยล้านดอลลาร์ภายในช่วงสิ้นปี 2557 บอช แอนด์ ลอมบ์ คาดการณ์ว่า จะสามารถทำผลประกอบการมูลค่าประมาณ 3.3 พันล้านดอลลาร์ และฐานกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าจัดจำหน่าย (EBITDA) ที่มีการปรับทบทวนแล้ว มูลค่า 720 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2556 การทำธุรกรรมครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มมูลค่าเงินสดต่อหุ้นของวาเลียนท์ในทันที การกำหนดข้อตกลงเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 1 มกราคม 2556 และเริ่มทำงานร่วมกันอย่างเต็มรูปแบบ การคบรวมกิจการในครั้งนี้อาจช่วยเพิ่มมูลค่าเงินสดต่อหุ้นของวาเลียนท์ได้ประมาณ 40% ภายในปี 2556
การทำธุรกรรมจะมีการจัดการหนี้ และหุ้นใหม่ มูลค่าประมาณ 1.5 – 2.0 พันล้านดอลลาร์ วาเลียนท์ ได้รับคำปรึกษาเรื่องการใช้หนี้สำหรับการทำธุรกรรมครั้งนี้จากโกลด์แมน แซคส์ แบงก์ ยูเอสเอ (Goldman Sachs Bank USA) เมื่อคำนึงถึงการเพิ่มทุนที่คาดการณ์ไว้ หนี้ของวาเลียนท์ที่ชำระล่วงหน้าในส่วนของ EBITDA จะมีมูลค่าประมาณ 4.6 เท่า
บอช แอนด์ ลอมบ์ จะยังคงใช้ชื่อเดิม และจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวาเลียนท์ กิจการด้านจักษุวิทยาที่วาเลียนท์มีอยู่จะถูกรวมเข้ากับบอช แอนด์ ลอมบ์ ซึ่งเป็นการพัฒนากิจการด้านสุขภาพดวงตาระดับโลก ซึ่งมีการคาดการณ์ผลประกอบการสุทธิปี 2556 ไว้ที่กว่า 3.5 พันล้านดอลลาร์ การควบรวมกิจการครั้งนี้ วาเลียนท์ จะสามารถสร้างผลประโยชน์จากแนวโน้มกิจการด้านสุขภาพดวงตาที่กำลังเติบโต เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยสูงอายุ ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่เพิ่มขึ้น และความต้องการจากตลาดเกิดใหม่ การควบรวมกิจการจะยังเอื้อประโยชน์ในเรื่องของการเข้าถึงฐานผลิตภัณฑ์ที่มั่นคง นวัตกรรม และผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ
เจ มิเชล เพียร์สัน (J. Michael Pearson) ประธาน และซีอีโอ บริษัท วาเลียนท์ กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะประกาศเรื่องการควบรวมกิจการบอช แอนด์ ลอมบ์ ซึ่งจะช่วยผลักดันวาเลียนท์ไปสู่การเป็นผู้นำระดับโลกด้านสุขภาพดวงตา ด้วยการสร้างความมั่นคงครั้งสำคัญให้กับความสามารถของเราในด้านยารักษาโรคตา คอนแทคเลนส์ และผลิตภัณฑ์ดูแลเลนส์ รวมถึงเครื่องมือ และอุปกรณ์ผ่าตัดตา แบรนด์บอช แอนด์ ลอมบ์ ซึ่งมีชื่อเสียง มีผลิตภัณฑ์ชั้นนำด้านการดูแลสุขภาพดวงตาที่หลากหลาย และผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด ถือเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับกิจการด้านจักษุวิทยาของเราในปัจจุบัน และเราจะมุ่งมั่นพัฒนากิจการสุขภาพดวงตาที่ยั่งยืนต่อไป การควบรวมกิจการในครั้งนี้ทำให้วาเลียนท์กลายเป็นผู้นำระดับโลกทั้งในด้านสุขภาพดวงตา และผิวหนังวิทยา”
“บอช แอนด์ ลอมบ์ เผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ เรานำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่ทันสมัยสำหรับผู้ป่วย สร้างช่องทางกระจายสินค้าที่แข็งแกร่ง ขยายตลาดใหม่ ตลอดจนกระชับความสัมพันธ์กับผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลรักษาดวงตาทั่วโลกอย่างแน่นแฟ้น การเข้าซื้อกิจการของวาเลียนท์ในครั้งนี้ถือเป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนถึงคุณประโยชน์อันยิ่งใหญ่ที่บรรดาพนักงานผู้มีความสามารถของเราได้ร่วมกันสร้างมาเป็นเวลาหลายปี” เบรนท์ ซอนเดอร์ส (Brent Saunders) ประธานบริหารบอช แอนด์ ลอมบ์ กล่าว “กลุ่มบริษัทของเรามีพันธสัญญาร่วมกันที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัย และคุณภาพสูง รวมถึงบริการอันยอดเยี่ยมแก่ลูกค้าของเรา ผมมั่นใจว่า บอช แอนด์ ลอมบ์ จะยังคงยืนหยัดเป็นผู้ให้บริการชั้นเยี่ยม และนำเสนอนวัตกรรมด้านสุขภาพดวงตาต่อไปภายใต้การดูแลของวาเลียนท์”
ทั้งนี้ ซอนเดอร์ส จะทำหน้าที่ให้คำปรึกษาแก่บริษัทวาเลียนท์เพื่อช่วยให้การส่งผ่านประสบการณ์ และผนวกรวมธุรกิจเป็นไปอย่างสมบูรณ์ โดยเฟรด ฮัสสัน (Fred Hassan) ประธานกรรมการบริษัทบอช แอนด์ ลอมบ์ จะร่วมเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหารของวาเลียนท์ นอกจากนี้ แดน เว็คสเลอร์ (Dan Wechsler) รองประธานบริหาร และประธานฝ่ายเภสัชภัณฑ์ระดับโลกของบอช แอนด์ ลอมบ์ จะดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานบริหาร และประธานกลุ่มบริษัทของวาเลียนท์ฝ่ายOphthalmology and Eye Health ส่วนดร. คาลวิน ดับบลิว โรเบิร์ตส์ (Calvin W. Roberts) ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ของบอช แอนด์ ลอมบ์ จะรับตำแหน่งเดิมในฝ่าย Ophthalmology and Eye Health ที่วาเลียนท์เช่นเดียวกัน โดยบริษัทหวังว่า จะมีสมาชิกระดับอาวุโสจากทีมบริหารท่านอื่นๆมาร่วมงานกับวาเลียนท์อีก
การดำเนินการดังกล่าวซึ่งคาดว่า จะเสร็จสิ้นในช่วงไตรมาสที่ 3 นั้น เป็นไปตามเงื่อนไขของการเข้าซื้อกิจการ และผ่านการเห็นชอบตามระเบียบข้อบังคับ
บริษัทสแคดเดน (Skadden) อาร์ปส์ Arps) สเลท (Slate) มาเฮอร์ แอนด์ ฟล็อม แอลแอลพี (Meagher & Flom LLP) แอนด์ ออสเลอร์ และฮอสกิ้น แอนด์ ฮาร์คอร์ท แอลแอลพี (Hoskin & Harcourt LLP)เป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายให้แก่วาเลียนท์ ส่วนเคลียรี่ กอทท์ลีบ สตีน แอนด์ แฮมิลตัน แอลแอลพี (Cleary Gottlieb Steen & Hamilton LLP) เป็นผู้ให้คำปรึกษาแก่บอช แอนด์ ลอมบ์ ขณะที่โกลด์แมน แซคส์ แอนด์ โค และเจพี มอร์แกน ซิเคียวริตี้ แอลแอลซี จะเป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านการเงินแก่บอช แอนด์ ลอมบ์