นายกรัฐมนตรี พอใจผลการเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่น ยืนยัน นักลงทุนญี่ปุ่นมั่นใจแผนการบริหารจัดการน้ำของไทย และจะขยายการลงทุนในไทยต่อไป
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แสดงความมั่นใจภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจเยือนประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 6-9 มีนาคม 2555 ว่า พอใจกับผลการเดินทางเยือนครั้งนี้ ซึ่งทั้งสองประเทศได้ตกลงเพิ่มเป้าหมายการค้า การลงทุน เป็นแสนล้านดอนลาล์สหรัฐ ในปี 2017 ขณะที่การสัมมนาร่วมกับภาคเอกชน ได้ชี้แจงแผนการบริหารจัดการน้ำของประเทศไทย ซึ่งนักธุรกิจญี่ปุ่นมีความมั่นใจ และส่วนใหญ่ยืนยันจะขยายการผลิต รวมถึงจะใช้ไทยเป็นฐานการผลิตต่อไป เพราะเห็นว่าประเทศไทย ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญด้านการเชื่อมต่อไปยังประเทศอื่นในภูมิภาค จึงสนใจจะลงทุนในประเทศไทยต่อไป อีกทั้งนักลงทุนได้ขอให้ประเทศไทยสนับสนุนนโยบายส่งเสริมการลงทุน ซึ่งได้ชี้แจ้งว่า รัฐบาลไทยมีนโยบายจะส่งเสริมและสนับสนุนการลงทุนของภาคเอกชนญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม จากการหารือองค์การความร่วมระหว่างประเทศญี่ปุ่น หรือ ไจก้า ยินดีมอบเงินช่วยเหลือแบบให้เปล่าจำนวนแปดพันล้านเยน สำหรับโครงการยกระดับถนนวงแหวงรอบนอก และพร้อมให้คำปรึกษาด้านเทคนิคการบริการจัดการน้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา และจากการเดินทางเยือนเมืองนาโตริ จังหวัดมิยากิ ซึ่งประสบอุทกภัยเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว ได้เรียนรู้วิธีการดูแล และการฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยของประเทศญี่ปุ่นที่ทำได้รวดเร็ว ทั้งนี้ ญี่ปุ่นมีแผนการวางผังเมืองใหม่ อีกทั้งจะสร้างเขื่อนที่ติดกับทะเล เพื่อป้องกันปัญหาอุทกภัย ซึ่งไทยจะศึกษาแนวทางดังกล่าวต่อไป
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงผลการหารือด้านการท่องเที่ยว ว่า ประเทศญี่ปุ่นจะเพิ่มวีซ่าให้นักท่องเที่ยว ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวไทยและญี่ปุ่น เดินทางท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศได้มากขึ้น และทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวของไทยได้รับประโยชน์