น้องสาวเป็นคนต่างจังหวัดแต่มาเรียนจบปริญญาตรีที่กรุงเทพฯ โดยพักอยู่กับพี่สาวคนกลางซึ่งไปทำ
งานบริษัทเรือแห่งหนึ่งใน USA หลายเดือนกว่าจะกลับสักครั้ง น้องสาวอายุ 24 ปีไปเจอกับคุณหนุ่มสุพรรณฯ คนหนึ่งในผับกรุงเทพฯ มันอายุน้อยกว่า 2 ปีจบมัธยมต้นแต่ไม่จบปลายเพราะเกเร (มันบอกเอง) ครอบครัวมันยากจนมากแถมมันตกงานอีกต่างหากแต่ริกินเหล้าสูบบุหรี่ มีเมียแล้วและมีลูกด้วยกัน 1 คน เมียเก่ามันหนีไปอยู่กับผัวใหม่แถมทิ้งลูกให้อยู่กับพ่อ มันกลับทิ้งลูกให้อยู่กับย่า(
แม่มันที่สุพรรณฯ) ลงมากรุงเทพฯ มันตามเพื่อนมาเที่ยวผับเจอน้องสาวแล้วพวกมันก็แอบได้เสียกัน ต่อมาน้องสาวตัวดีก็ดันพามันเข้าบ้านพี่สาวและใช้บ้านเป็นโรงแรมม่านรูดโดยพ่อ
แม่ที่ต่างจังหวัดและพี่สาวคนโตซึ่ง
แต่งงานแล้วอยู่กรุงเทพฯ และอยู่คนละบ้านไม่ทราบเรื่อง (โชคดีที่น้องสาวไม่ถูกมันฆ่าหมกส้วมแล้วขนทรัพย์สินในบ้านไปหมด) พี่สาวคนโตแวะมาเยี่ยมน้องสาวคนเล็กก็เจอผัวเด็กแอบหลบอยู่ในห้องนอนก็เรียกลงมาคุยกัน พวกมันบอกว่ารักกันและพร้อมที่จะแต่งงานกันทั้งที่เพิ่งคบกันได้ไม่กี่เดือน สุดท้ายก็ให้แม่มันจากสุพรรณฯ มาสู่ขอ แม่มันบอกว่าถ้าอยากแต่งก็จัดงานแต่งกันเอาเอง แม่มันไม่มีเงินทองที่จะให้เป็นสินสอด พวกเราฝ่ายหญิงจึงต้องออกค่าใช้จ่ายในการจัดงานแต่งงานทั้งหมดรวมทั้งเงินสินสอดและทองหมั้นหลายชิ้นมาวางใส่พานด้วยโดยฝ่ายชายไม่ต้องออกเงินแม้แต่บาทเดียว แต่คุยกันไว้ว่าพวกมัน 2 คนต้องไปอยู่กับพ่อแม่ฝ่ายหญิงที่ต่างจังหวัดช่วยงานที่นั่นโดยกินอยู่ฟรี ใช้รถฟรี ทุกอย่างฟรีหมด แถมยังได้เงินใช้ส่วนตัวอีกต่างหาก แต่พออยู่ไปได้สักพักหนึ่งคุณผัวเด็กก็ออกลายทะเลาะกับแม่ยายหลายครั้ง น้องสาวก็เข้าข้างผัวมันและเถียงกับแม่ตัวเองทั้งที่ไม่เคยทำอย่างนี้มาก่อน และบางครั้งพวกมันทะเลาะกันเองก็มีแล้วก็กลับมาดีกันเหมือนเดิม ทิ้งเมียไปนอนเล่นที่สุพรรณฯ เป็นเดือนแล้วกลับมาใหม่ก็มีมาแล้ว เคยฟังพวกมันคุยกันขึ้นสรรพนามพ่อขุนรามตลอด คุณผัวเด็กยังคุยให้ฟังอีกว่าก่อนหน้าที่จะได้น้องสาวเป็นเมียนั้นมันไม่เคยนอนคนเดียวเลยมีผู้หญิงอื่นนอนข้างกายตลอด เล่าให้น้องสาวฟังมันก็บอกว่าช่างมัน..มันบ้า..ปล่อยมันไป
ต่อมาทางบ้านเกิดปัญหาคุณพ่อต้องไปที่อื่นกะทันหันประมาณ 3-4 เดือน เหลือผู้ชายในบ้านคนเดียวก็คือคุณผัวเด็ก ห่างกันแค่วันเดียวมันก็หาเรื่องทะเลาะกับแม่ยายและเมียแล้วหนีออกจากบ้านกลับสุพรรณฯ เฉยเลย พวกเราได้ทราบข่าวก็โกรธมันมากเพราะทางบ้านกำลังมีปัญหาเรื่องพ่อยังไม่ทันไร มันกลับทิ้งเมียซึ่งเพิ่งจะตั้งท้อง 3 เดือนได้ลงคอ ไม่รู้จิตใจมันทำด้วยอะไร ได้แต่ยุให้น้องสาวเลิกกับมัน (โชคดียังไม่จดทะเบียนกัน) ช่วงนี้ก็อยู่กันตามลำพัง 2 แม่ลูกและหลานอีก 1 คนซึ่งจะเกิดในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า น้องสาวก็พูดหนักแน่นว่าจะเลิกกับมันแน่นอน ทั้งแม่และพี่สาวก็ได้ยินน้องสาวพูดถึงขนาดนี้ก็บอกว่าเรื่องลูกไม่ต้องเป็นห่วงจะพาไปฝากครรภ์และรับเลี้ยงส่งเสียให้จนจบขั้นสูงสุดเลย แต่เชื่อหรือไม่..ยังไม่ทันข้ามสัปดาห์พวกมันก็โทร.
มือถือคุยกันกะหนุงกะหนิงและน้องสาวบอกว่ามันอยากกลับมาบ้านใหม่ ทั้งแม่และพี่สาว 2 คนยืนยันไม่ให้มันกลับและด่าน้องสาวว่าเรียนสูงเสียเปล่ากลับโง่ดักดาน มันทำกับพวกเราซะขนาดนี้ยังหลงมันหัวปักหัวปำ น้องสาวกลับโกรธพวกเราที่ไม่ให้ผัวมันกลับมา สุดท้ายมันก็โทร.ให้น้องสาวตามมันลงไปที่กรุงเทพฯ ทั้งแม่และพี่สาวพยายามห้ามและเกลี้ยกล่อมให้อยู่อย่างไรน้องสาวตัวดีก็ไม่สนใจหอบลูกในท้องกับเสื้อผ้าไปโดยไม่สนใจว่าแม่ต้องอยู่บ้านคนเดียวตามลำพัง แต่ก็ยังโชคดีที่ญาติพี่น้องของแม่ในหมู่บ้านเดียวกันก็แวะมาเยี่ยมเยียนให้กำลังใจตลอดรวมทั้งพวกเราที่เป็นพี่สาว 2 คนก็โทร.จากกรุงเทพฯ และต่างประเทศหาแม่แทบทุกวัน แม่จะได้ไม่เหงา ก่อนน้องสาวลงไปมันบอกว่าผัวมันกำลังทำงานเป็นกรรมกรก่อสร้างอาศัยอยู่ในบ้านพักคนงานและมันจะไปชีวิตอยู่กับผัวมันที่นั่น คู่เวร
คู่กรรมจริง ๆ สำหรับน้องสาวตัวแสบแล้วผัวเด็กมันน่าจะมีดีอยู่ที่หว่างขาอันเดียวเท่านั้นนอกนั้นมันไม่มีอะไรดีเลยจริง ๆ และกว่า 1 เดือนมานี้น้องสาวก็ไม่เคยติดต่อกลับมาอีกเลย พวกเราก็จะไม่ติดต่อไปหาเช่นกันเพราะมันเห็นผัวตัวซวยที่รู้จักกันไม่ถึง 3 ปีดีกว่าแม่ตัวเองที่เลี้ยงดูส่งเสียให้เรียนสูงถึงขนาดนี้มา 20 กว่าปีได้ สาบานได้ว่านี่คือเรื่องจริงนะคะ
อยากถามว่าอย่างน้องสาวนี้เขาเรียกว่า “รัก” หรือว่า “หลง” กันแน่คะ