|
10 สาเหตุใกล้ตัว ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะทำคุณ ฟันเหลือง – ปากเหม็น ไม่ว่าใคร ก็ต้องอยากเป็นเจ้าของรอยยิ้มสดใส น่าประทับใจ แม้สาวหลายคนจะพยายามดูแลสุขภาพปากและฟันเป็นอย่างดี ทั้งแปรงฟันสม่ำเสมอ ถึงไปพบหมอฟัน 2 ครั้งต่อปี แต่สิ่งเหล่านี้อาจยังไม่เพียงพอ เพราะแท้จริงแล้ว ยังมีสิ่งใกล้อีกหลายอย่างที่คุณอาจไม่รู้มาก่อนว่า มันคือสาเหตุที่ทำให้สุขภาพช่องปากของคุณย่ำแย่
โอกาสนี้เราจัดมาให้ทราบแล้วค่ะว่า 10 สิ่งใกล้ตัว ที่แทบไม่น่าเชื่อ ว่าจะทำให้คุณเกิดปัญหาสุขภาพปากและฟันนั้น มีอะไรกันบ้าง 1. เครื่องดื่มเกลือแร่
ปัจจุบันเครื่องดื่มประเภทเกลือแร่ ที่ช่วยทดแทนการสูญเสียเหงื่อจากการออกกำลังกาย มีจำหน่ายมากมายหลากหลายยี่ห้อ ซึ่งก็มิใช่แค่พ่อหนุ่มนักกีฬาเท่านั้นที่นิยม สาวเราบางคนเมื่อรู้สึกอ่อนเพลีย ก็ซื้อหามาดื่มหวังสร้างความกระปรี้กระเปร่าอยู่เป็นประจำ แต่ทราบหรือไม่ว่า เครื่องดื่มประเภทนี้ ไม่ดีต่อฟันเอาซะเล้ย ทั้งนี้เพราะมีผลการวิจัย ออกมายืนยันว่า เครื่องดื่มเกลือแร่เหล่านี้ มักมีค่าความเป็นกรดอยู่ในระดับสูง ซึ่งกรดเหล่านี้ สามารถส่งผลให้ผิวฟันผุกร่อนได้ง่าย ๆ นอกจากนี้น้ำตาลที่มีอยู่ในเครื่องดื่มนี้ เมื่อสะสมเป็นระยะเวลานาน ยังก่อให้เชื้อแบคทีเรีย (Bacteria) ซึ่งเป็นสาเหตุให้ ฟัน เปราะ แตกหักง่าย และเกิดภาวะร่องเหงือกอักเสบ ได้อีกด้วย
"การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ พบว่า เครื่องดื่มเกลือแร่สำหรับผู้สูญเสียเหงื่อจากการเล่นกีฬา อาจนำไปสู่การพังทลายของฟัน เนื่องมาจากกรดซึ่งมีความเข้มข้นสูงที่มีอยู่ในเครื่องดื่มนั้นเข้าไปทำลายเคลือบผิวฟัน" David F. Halpern ประธานสถาบันทันตกรรม แห่งสหรัฐอเมริกา ระบุ
|
|
|
|
Tags: |
|
|
|
|
2. การแปรงฟันผิดเวลา
หลายท่านเคยชิน ทานอาหารเสร็จปุ๊บต้องรีบเข้าห้องน้ำแปรงฟันปั๊บ เพื่อหวังกำจัดเชื่อแบคทีเรีย เป็นอีกหนทางในการป้องกันฟันผุ แต่ในความจริงแล้ว การแปรงฟันหลังอาหารทุกมื้อ อาจไม่ได้ส่งผลดีต่อสุขภาพฟันเสมอไป หากมื้อนั้นคุณรับประทาน อาหารที่มีกรดสูง เช่น ไวน์, กาแฟ, น้ำอัดลม หรือผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว
ทั้งนี้เพราะอาหารที่มีกรดสูง เมื่อเรารับประทานเข้าไป กรดของมันจะเข้าไปทำลายเคลือบฟันมากอยู่แล้ว หากยิ่งไปขัดถู แปรงฟันเข้าอีก เคลือบฟันก็จะยิ่งสึกกร่อนและถูกทำลายมากเข้าไปใหญ่ ฉะนั้น แนะนำว่า หลังทานอาหารที่มีกรดสูงเข้าไป ให้กลั้วปากด้วยน้ำเปล่าไปก่อน จากนั้นรอสัก 1 ชั่วโมงแล้วค่อยแปรงฟัน เช่นนั้นจะส่งผลดีต่อฟันมากกว่าค่ะ
|
|
Tags: |
|
|
|
|
3. นิยมจิบไวน์
"ไวน์" (Wine) เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (Alcohol) ที่หลายคนติดอกติดใจนี่แหละค่ะ ที่เป็นอีกสาเหตุหนึ่งซึ่งทำให้ฟันผุ เพราะกรดที่มีอยู่ในไวน์นั้น สามารถทำให้เคลือบฟันของเราค่อย ๆ เสื่อมสภาพลง ฉะนั้น สำหรับผู้ชื่นชอบการจิบไวน์ แต่อยากลดความเสี่ยงเรื่องภาวะฟันผุ David F. Halpern แนะนำว่า ควรจิบไวน์แต่พอควร จิบเรื่อย ๆ ทีละนิด หลังจิบแล้วก็ดื่มน้ำเปล่าเข้าไปสักหน่อย เพื่อให้น้ำเปล่าช่วยชำละล้างกรดในไวน์ ไม่ให้ทำลายเคลือบฟันได้มากนัก
รวมถึงรับประทานไวน์ คู่กับอาหารที่อุดมด้วยแคลเซียม (Calcium) เช่น ดื่มไวน์ขาว คู่กับ ชีส (chese) หรือรับประทานอาหารอย่างอื่นเป็นกับแกล้ม ระหว่างจิบไวน์ไปด้วย เพราะน้ำลายที่เกิดจากการเคี้ยวอาหารจะช่วยให้กรดในไวน์เจือจางได้
|
|
Tags: |
|
|
|
|
4. ทานยาลดน้ำหนัก
เชื่อว่าหลายคน คงได้ยินกันมาบ่อยแล้ว สำหรับเรื่องผลข้างเคียงของยาลดน้ำหนัก ที่อาจส่งผลต่อประสาท ทานแล้วเบลอ หรือพอเลิกทานน้ำหนักก็กลับมามากขึ้นอีกเป็นทวีคูณ ฯลฯ นอกจากผลข้างเคียงที่คุ้นหูนั้น ยังมีอีกอย่างที่คุณอาจไม่ทราบนั่นคือ ยาลดน้ำหนักก็สามารถเพิ่มความเสี่ยงทำให้คุณเป็นโรคเหงือก และฟันผุได้ด้วย
เพราะยาลดความอ้วนส่วนใหญ่ มักส่งผลให้ต่อมน้ำลาย ผลิตน้ำลายน้อยลง ซึ่งเมื่อน้ำลายในปากน้อยลง เชื้อแบคทีเรียที่มีอยู่ในช่องปากก็จะทำลายเหงือกและฟันของคุณได้มากขึ้น จนนำไปสู่อาการฟันผุ สุขภาพช่องปากย่ำแย่
ฉะนั้น การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ คู่ไปกับการควบคุมอาหาร จึงเป็นหนทางที่ปลอดภัยที่สุด ที่นอกจากจะทำให้คุณลดน้ำหนักได้อย่างปลอดภัยแล้ว ยังปกป้องร้อยยิ้มสวย ๆ ของคุณไว้ได้อีกต่างหาก
|
|
Tags: |
|
|
|
|
5. ดื่มชา - กาแฟ
เครื่องดื่มร้อน ๆ หอมกรุ่น อย่าง ชา-กาแฟ ที่สาวเราชอบดื่มกัน นอกจากจะทำให้เกิดคราบไม่น่ามองที่ฟันแล้ว สารแทนนิน (Tannin) ในชา - กาแฟ ยังส่งผลต่อผิวฟัน ทำให้ผุกร่อนง่ายอีกด้วย ดังนั้น นอกจากจะแนะนำให้ดื่มชา กาแฟ แต่พอดีแล้ว หลังดื่มเสร็จควรกลั้วน้ำเปล่าเสียหน่อยเพื่อช่วยเจือจาง สารแทนนิน มิให้ทำลายผิวฟัน และถ้าจะให้ดีควรเพิ่มนมลงไปในชา หรือกาแฟด้วย
"สารแทนนิน ใน ชาดำ และกาแฟ จะเข้าไปทำลายผิวเคลือบฟัน ทั้งยังทำให้เกิดเป็นคราบฝังแน่นที่ผิวฝันอีกด้วย ฉะนั้น จึงแนะนำว่าควรบริโภคเครื่องดื่มเหล่านี้อย่างพอเหมาะ และควรเพิ่มนมลงในชาหรือกาแฟของคุณเพื่อช่วยต่อต้านกรดที่มีในชาและกาแฟเหล่านั้นด้วย" ประธานสถาบันทันตกรรม David F. Halpern ให้ข้อมูล
|
|
Tags: |
|
|
|
|
6. อดอาหาร ลดน้ำหนัก
เมื่ออยู่ในช่วงไดเอท (Diet) บางคนตั้งหน้าตั้งตาจำกัดอาหาร หวังลดน้ำหนัก ควบคุมสัดส่วนให้สวยนิ้ง จนลืมคิดไปว่า การที่คุณสาว ๆ รับประทานอาหารน้อยลงนั้น เป็นสาเหตุให้คุณขาดวิตามิน และแร่ธาตุที่สำคัญต่อเหงือก และ ฟัน ทั้ง โฟเลต (Folate), วิตามินดี (Vitamin D), โปรตีน (Protein), แคลเซียม, วิตามินซี (Vitamin C) ฯลฯ
นอกจากนี้พฤติกรรมการรับประทานน้อย ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ยังส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายต่ำลงจนอาจเกิดการติดเชื้อที่เหงือกและช่องปากได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
|
|
Tags: |
|
|
|
|
7. ทานยาคุมกำเนิด
เกิดเป็นผู้หญิงไม่ใช่เรื่องง่ายจริง ๆ เพราะยาคุมกำเนิดที่สาวมีคู่แล้วต้องรับประทานเพื่อคุมกำเนิดเนี้ย ส่งผลต่อการรักษาโรคเหงือกและฟันที่จะทำได้ยากขึ้น
ทั้งนี้ มีการศึกษายืนยันว่า ผู้หญิงที่รับประทานยาคุมกำเนิด หากพวกเธอเกิดภาวะฟันผุแล้วต้องไปถอนฟันนั้น มีแนวโน้มว่าผู้หญิงกลุ่มนี้จะเกิดภาวะการติดเชื้อที่เหงือกมากกว่าคนทั่วไป (ผู้ไม่รับประทานยาคุมกำเนิด) ถึง 2 เท่า ฉะนั้น หากคุณยังต้องรับประทานยาคุมกำเนิดจริ ๆ แนะนำว่า ควรปรึกษากับทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอเพื่อคอยระมัดระวังสอดส่องผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้น
|
|
Tags: |
|
|
|
|
8. ฮอร์โมนในช่วงวัยรุ่น เพิ่มความเสี่ยงโรคเหงือก
เป็นอีกเรื่องที่ต้องเตือนกันไว้สำหรับหนุ่ม-สาวแรกรุ่น ที่นอกจากเราจะทราบกันดี ว่าเมื่อฮอร์โมน (Hormone) ในช่วงวัยรุ่นพุ่งพล่าน นอกจากจะทำให้เกิดสิว หน้ามัน ฯลฯ แล้ว ยังสามารถทำให้เกิดภาวะเหงือกบวม และมีความเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อที่เหงือก เกิดโรคเหงือกอักเสบ และแผลในปากได้ง่ายขึ้น
แต่ทั้งนี้ หากดูแลสุขอนามัยภายในช่องปากให้ดี แปรงฟันอย่างสม่ำเสมอ และพบแพทย์เป็นประจำ ก็จะสามารถลดความเสี่ยงในเรื่องนี้ได้ค่ะ
|
|
Tags: |
|
|
|
|
9. การฟอกฟันให้ขาว
แม้ยังไม่ชัดเจนว่า การฟอกฟันขาวจะทำลายผิวฟัน แต่ก็มีงานวิจัยหลายชิ้นที่ระบุว่า การฟอกฟันเพื่อให้ขาวใสนั้น สามารถส่งผลให้ผิวฟันบอบบาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทำบ่อยเกินไป!
ฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจฟอกสีฟันตามคลินิก (Clinic) , ใช้เจลฟอกสีฟันด้วยตัวเองที่บ้าน หรือแม้กระทั่งใช้ยาสีฟันไวท์เทนนิ่ง (Whitening) ที่อาจมีฤทธิ์ในการกัดกร่อนผิวฟัน ควรพิจารณาให้ถ้วนถี่ และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเสมอจ้า
|
|
Tags: |
|
|
|
|
10. อายุเพิ่ม กระดูก-ฟัน ยิ่งอ่อนแอ
เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องเตรียมใจค่ะ เมื่ออายุเพิ่มขึ้น กระดูกและฟันของเราย่อมเสื่อมไปตามกาลเวลา แม้เรื่องอายุจะหยุดยั้งไม่ได้ แต่คุณก็สามารถช่วยบรรเทาความสึกหรอของฟันได้ ทั้งการรับประทานอาหารที่เปี่ยมไปด้วยแคลเซียม รวมถึงใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ (Fluoride) อย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันฟันผุ
"ผู้สูงอายุที่แปรงอย่างสม่ำเสมอด้วยยาสีฟันฟลูออไรด์ หรือบ้วนปากด้วยฟลูออไรด์อย่างสม่ำเสมอ จะมีฟันผุน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้ใช้ฟลูออไรด์" ประธานสถาบันทันตกรรมแห่งสหรัฐอเมริกา David F. Halpern ให้ข้อมูลปิดท้าย
|
|
Tags: |
|
|
|
|
ที่มา : ASTV ผู้จัดการออนไลน์ และ http://www.healthcorners.com/new_read_article.php?category=generalhealth&id=4815 ภาพ : อินเตอร์เน็ต
|
|
Tags: |
|
|
|
|
Jesus loves you and so do I.
|
|
Tags: |
|
|
|
love you pond
|
ขอบคุณค่ะ
|
|
Tags: |
|
|
|
|